ข่าวสารชาวเพชร

อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงพื้นที่สำรวจที่ราชพัสดุ ก่อนนำไปสนับสนุนโรงพยาบาลสนามชั่วคราว รองรับผู้ป่วยโควิด – 19

Loading

 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กรกฎาคม 2564 นายยุทธนา  หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมด้วย นางศุกร์ศิริ  บุญญเศรษฐ์ รองอธิบดีด้านที่ราชพัสดุ นายคณาวุฒิ  สิติธีรพันธุ์  ผู้อำนวยการกองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย พลตรี นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ลงพื้นที่สำรวจที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.5070 โฉนดเลขที่ 12196 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ประมาณ 6-0-07 ไร่ ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุที่จะนำไปสนับสนุนการก่อสร้างโรงพยาบาลสนาม (ชั่วคราว) รองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
     โดยที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าว กรมธนารักษ์ได้นำไปเปิดประมูล (ผังเปล่า) เพื่อก่อสร้างอาคารยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง มีกำหนดอายุการเช่า 30 ปี โดยบริษัท ร่มเกล้าเพลซ จำกัด เป็นผู้ประมูลได้ ปัจจุบัน บริษัทฯ ขอขยายระยะเวลาการลงนามก่อสร้างถึงเดือนธันวาคม 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และนโยบายการควบคุมโรค จึงส่งผลให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างตามแผนที่กำหนดไว้ได้ ในการนี้ กรมธนารักษ์พิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ราชพัสดุแปลงดังกล่าวมีความเหมาะสมทั้งในแง่ของขนาดพื้นที่และทำเลที่ตั้ง จึงจะนำมาสนับสนุนการก่อสร้างโรงพยาบาลสนาม ระดับ 1 ขนาดพื้นที่ใช้สอย 9,000 ตารางเมตร เป็นการชั่วคราว สามารถรองรับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มากถึง 3,000 เตียง โดยจะใช้ชื่อโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ว่า “พลังแผ่นดิน 2” ทั้งนี้ กรมธนารักษ์สามารถส่งมอบพื้นที่เพื่อใช้ในการก่อสร้างได้ภายใน 2-3 วัน และจะใช้เวลาในการก่อสร้างไม่เกิน 7 วัน โดยที่ผ่านมา กรมธนารักษ์ได้สนับสนุนให้นำที่ราชพัสดุไปใช้ประโยชน์เป็นโรงพยาบาลสนามเป็นการชั่วคราวมาแล้ว เช่น ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะร่วมสนับสนุนนํ้าดื่ม รวม 1,000 โหล อาหาร 2 มื้อ หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์เจล สําหรับบุคคลากรทางการแพทย์และผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน 2 ด้วย
     ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ธนารักษ์พื้นที่ทั้ง 76 พื้นที่ สำรวจที่ราชพัสดุที่มีความเหมาะสมและมีศักยภาพที่จะนำมารองรับการก่อสร้างหรือใช้เป็นโรงพยาบาลสนามเป็นการชั่วคราว โดยให้ถือเป็นนโยบายสำคัญและเร่งด่วนของรัฐบาลและกระทรวงการคลัง